Hell

คู่มือท่องนรก

โดย อลัน ไดเออร์

"รู้ไว้ก่อนเดินทาง"

นรกเป็นหนึ่งในแนวคิดที่ถูกเข้าใจผิด ถูกใช้ในทางที่ผิด และถูกนำเสนอผิดไปมากที่สุดในศาสนศาสตร์ มันไม่น่าพึงพอใจ มันน่าหวาดหวั่น และถ้าเราพูดกันตามตรง มันน่าขยะแขยง แต่วันนี้เราจะพูดถึงมัน—เพราะ นรกมีจริง และผู้คนต้องการความจริง ไม่ใช่ความหวาดกลัว

ขอให้ชัดเจน: ไม่มีใครจะถูกกระตุ้นด้วยความกลัวให้หยุดเกลียดชัง ความกลัวไม่สามารถเปลี่ยนหัวใจได้ ความกลัวอาจกระตุ้นสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่ไม่สามารถรักษาโรคแห่งความชั่วร้ายได้

และนั่นคือสิ่งที่ความชั่วร้ายเป็น—โรคทางจิตวิญญาณ พระเจ้าทรงเรียกมันเช่นนั้น มันไม่สามารถรักษาได้ในนรก มันไม่สามารถรักษาได้หลังความตาย มันสามารถรักษาได้ที่นี่—บนโลกนี้—โดยมนุษย์—บนมิติทางกายภาพ

สิ่งที่ฉันเห็น

พระเจ้าทรงให้ฉันเห็นภาพของนรก—ไม่ใช่ไฟและกำมะถัน แต่เป็นสิ่งที่ฉันถูกเปิดเผยให้เห็น

มันดูเหมือนทะเลสาบแห่งน้ำมันดินสีดำข้น มันแวววาว ทั้งหม่นหมองและส่องประกายในเวลาเดียวกัน หนวดหนาและบิดเป็นเกลียวลอยขึ้นจากมัน—มีชีวิต รับรู้ และยื่นออกไปด้วยเจตนาร้าย พวกมันค้นหาช่องว่างในจิตวิญญาณของมนุษย์ เส้นใยบางๆ ของจิตสำนึกที่พวกมันสามารถเลื้อยเข้าไปได้

นรกไม่ใช่สถานที่ แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิต มันเป็นมะเร็งทางจิตวิญญาณ มันเป็นทั้งระเบียบและความโกลาหล ทั้งหลอกลวงและอันตราย

แอ่งน้ำแห่งความเกลียดชังและความกลัวนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ แต่มันเป็นจิตสำนึก มันเป็นพลังที่มีชีวิตและหายใจ—ที่รู้จักกันในชื่อซาตาน

ความจริงเกี่ยวกับนรก

คำโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับนรกคือพระเจ้าส่งคนไปที่นั่น พระเจ้าไม่ได้ส่งใครไปนรก หากคุณไปที่นั่น นั่นเป็นเพราะคุณเลือกมันเอง

ไม่มีการลงโทษจากสวรรค์ ไม่มีศาลแห่งไฟ มีเพียงผลลัพธ์ตามธรรมชาติของการหลบซ่อนจากแสงสว่าง

เมื่อความจริงถูกเปิดเผยและแสงของพระเจ้าส่องไปทั่ว บาปของคุณเองจะทำให้คุณละอาย แต่มีทางหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดนั้น ยังมีเวลาอยู่

นรกไม่ใช่การลงโทษ แต่มันคือการหลบซ่อน มันเป็นสถานที่เดียวที่แสงของพระเจ้าไม่ส่องถึง ที่ซึ่งการทรงสถิตของพระองค์ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ใช่เพราะพระเจ้าหันหลังให้—แต่เพราะผู้คนหันหลังให้พระองค์

สิ่งที่เกิดขึ้นในนรกจะอยู่ในนรก เหมือนหลุมดำ ไม่มีอะไรสามารถหลบหนีออกมาได้—แม้แต่ความหวัง

นรกสามารถอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน

บางครั้ง คุณไม่จำเป็นต้องตายเพื่อสัมผัสนรก นรกสามารถอยู่ที่นี่—ในจิตใจของคุณ ในจิตวิญญาณของคุณ มันรู้สึกเหมือน ความสิ้นหวัง ความขมขื่น ความเกลียดชัง ความกลัว

คุณเคยรู้สึกถึงความเจ็บปวดทางจิตวิญญาณแบบนั้นไหม? ถ้าเคย คุณได้สัมผัสขอบเขตของสิ่งที่นรกเป็นแล้ว

ในทางตรงกันข้าม สวรรค์รู้สึกเหมือนบ่ายฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น—กลิ่นของดอกไม้ แสงแดดอ่อนโยน และจิตวิญญาณที่ถูกปลุกให้มีความสุขและความรัก นั่นคือจุดหมายปลายทางที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราทุกคนไปถึง และสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ นั่นจะเป็นบ้าน—เพราะความรักชนะ

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่แสงสว่าง เมื่อคุณเลือกความรัก ชีวิตใหม่ของคุณก็เริ่มต้นขึ้น ชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เป็นอิสระมากขึ้น

แต่บางคนยังคงหลบซ่อน

มีบางคนที่ จะไม่ก้าวเข้าสู่แสงสว่าง พวกเขาติดอยู่—จนกว่าสันติภาพจะถูกฟื้นฟูและความชั่วร้ายจะถูกทำลาย พวกเขายังคงอยู่ในระดับต่ำสุดของต่ำสุด ไม่ใช่เพราะพระเจ้าทรงสร้างพวกเขาให้เป็นเช่นนั้น แต่เพราะพวกเขาเลือกที่จะหลบซ่อนในความมืด

ดังนั้น ฉันขอพูดสิ่งนี้กับคุณ:

จงคิดอย่างรอบคอบ จงรักอย่างลึกซึ้ง จงใส่ใจเสมอ

เมื่อ ความอิจฉา ความเกลียดชัง หรือความโลภ ปรากฏขึ้น—จงปฏิเสธมัน จงหันไปหาความเมตตา จงมองหาความรู้สึกเชิงบวก จงทำสิ่งที่ยาก—กล่าว "ไม่" ต่อสิ่งล่อลวง

การไถ่บาปยังคงเป็นไปได้

บางที เราอาจมีเพื่อนหรือครอบครัวที่อยู่ในนรก อย่าลืมพวกเขา จงอธิษฐานเพื่อการไถ่บาปของพวกเขา จงให้อภัยพวกเขา และจงขอให้พระเจ้าทรงให้อภัยมนุษยชาติทั้งหมด

เพราะ ความชั่วร้ายของนรกไม่ได้ถูกทำลายที่นั่น—แต่มันถูกทำลายที่นี่ นรกต้องถูกรื้อถอนบนโลก ทีละทางเลือก

เราต่อสู้กับความชั่วร้ายไม่ใช่ด้วยอาวุธ แต่ด้วยอารมณ์และเจตนาของเราเอง เราต่อสู้กับมันโดยการรักกันและกัน

คำสุดท้าย: จงเลือกเดี๋ยวนี้

นรกไม่ใช่สิ่งที่ต้องหวาดกลัว ผู้ที่มีความเกลียดชังในหัวใจ—พวกเขารู้ตัวเองดีอยู่แล้ว

ถ้านั่นคือคุณ… หยุดเถอะ หยุดเดี๋ยวนี้ กลับใจ หันกลับมา ช่วยจิตวิญญาณของคุณ

และ ผู้ที่มีความรัก? พวกเขาก็รู้ตัวเช่นกัน

และ หากคุณยังไม่แน่ใจ? คุณจะต้องเลือก ความรักหรือความเกลียดชัง ความมืดหรือแสงสว่าง

ช่วงเวลานั้นกำลังมา ดีกว่าที่จะตัดสินใจตอนนี้

พระเจ้าทรงเชียร์คุณอยู่ เราก็เชียร์คุณอยู่ คุณจะมีความสุขมากขึ้นหากคุณเลือกความรัก

ความสุขต้องการความพยายาม ความทุกข์เป็นเรื่องง่าย

จงเลือกเส้นทางที่ยากกว่า—เส้นทางที่นำไปสู่สันติภาพ ความสุข และชีวิต

จงเลือกความรัก จงปฏิเสธความเกลียดชัง และก้าวเข้าสู่แสงสว่าง